วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2553

" แม่พระของสุนัขจรจัด "


พี่เดือน
หญิงกลางคน วัย 46 ปี

          ฉันเคยมีโอกาศได้ไปเยี่ยมพี่เดือนที่บ้านกว่าจะหาบ้านเจอก็ยากพอตัว จากที่เคยโทรให้พี่เดือนมารับน้องหมาที่บ้านตลอดเพราะบ้านอยู่ไม่ไกลจากบ้านพี่เดือนมากนัก พอได้มีโอกาสไปบ้านเลยเอามาเล่าให้พี่ๆน้องๆ CAS ฟังกัน
          พี่เดือนทักทายและเปิดประตูเชิญเราเข้าไปในบ้านอย่างเป็นกันเอง ความที่ฉันเป็นคนแปลกถิ่น เจ้าของบ้านกว่า 37 ตัว ส่งเสียงทักทายฉันเป็นการใหญ่ ถึงแม้ฉันจะมีใจรักสุนัขเป็นทุน แต่เมื่อต้องเผชิญกับสุนัขแปลกหน้าทั้ง 37 ตัว ก็ทำเอาฉันหวั่นเสียไม่น้อย

         ฉันเข้าไปหาพี่เดือนช่วงเวลาทานอาหารของเพื่อนสี่ขาพอดี พี่เดือนจึงง่วนอยู่กับการคลุกอาหารให้เจ้าของบ้าน ฉันจึงเอาเวลานั้นสำรวจสถานที่และเก็บรูปถ่ายบ้าง แต่ฉันยังไม่กล้าไปไหนไกลจากพี่เดือนมากนักหรอก เพราะเจ้าของบ้านแต่ละตัวยังจ้องฉันตาเป็นมัน บางตัวเริ่มหยุดเห่าเข้ามาดมๆกลิ่นบ้างแล้วก็มี ฉันคิดไว้เสมอถ้าฉันอยากเป็นเพื่อนกับมัน มันก็คงอยากเป็นเพื่อนกับฉันบางเหมือนกัน





          บ้านนี้เป็นที่อยู่อาศัยของสุนัขทั้ง 37 ตัว เป็นบ้านชั้นเดียวแยกส่วนได้สัก 3 ส่วน นี้ยังไม่รวมกรงเล็กๆ ที่เรียงรายกว่า 10 กรงน้อยใหญ่ในตัวบ้าน มีพื้นกว้างพอให้เพื่อนหูตั้งวิ่งเล่นอย่างสบายอารมณ์ ลักษณะบ้านก็สะอาดสะอ้านดี (ฉันยังเผลอคิดว่า สะอาดกว่าห้องฉันเสียด้วยซ้ำ) พื้นที่อยู่ด้านหลังบ้าน กั้นรั้วตาข่ายสูงพอคาง มีสุนัขอยู่กว่าสิบตัว พี่เดือนบอกฉันว่า เป็นส่วนของสุนัขที่เพิ่งเข้ามาใหม่ อาจยังไม่คุ้นชิน จึงต้องนำไปไว้ยังส่วนนั้นก่อน หากคุ้นชินกับเพื่อนสมาชิกและบ้านแล้ว จึงปล่อยให้เข้ามารู้จักกับเพื่อนๆ ตัวที่เหลือ






         บริเวณด้านข้างบ้าน เป็นรั้วกั้นระดับพอคางเช่นกัน สุนัขที่อยู่ในส่วนนี้ส่วนใหญ่เป็นสุนัขพิการ ขาหักบ้าง ตาบอดบ้าง สุนัขที่แก่หรือเดินไม่ได้ก็มีไม่น้อย สุนัขบริเวณนี้ส่วนใหญ่ ไม่ได้ส่งเสียทักทายฉันดังเหมือนสุนัขบริเวณอื่น คงเพราะมันเจ็บหนักหรือเหนื่อยกระมัง สุนัขหรือคนก็ไม่ได้ต่างกันนัก มีเจ็บ มีไข้ มีล้ม มีตายเหมือนกัน บางทีฉันคิดว่า มนุษย์คงไม่ได้วิเศษใหญ่ค้ำโลกเหมือนที่ตนคิดไว้หรอก ในเมื่อเราก็ต้องตายไม่ต่างกับสิ่งมีชีวิตอื่นเลย ..





รถคู่ใจรับส่องน้องหมา

        ฉันถามพี่เดือนว่าเหนื่อยไหม กับการต้องดูแลสุนัขจรจัดเหล่านี้ พี่เดือนบอกฉันว่า พี่เดือนไม่เหนื่อย และพี่เดือนไม่เคยหยุด “ ไม่มีเจ็บ ไม่มีลา ไม่มีขาด มีแต่ตายเท่านั้น พี่เดือนถึงหยุด” ฉันสาบานว่าถ้อยคำดังกล่าวฉันไม่ได้นั่งเทียนเขียนขึ้นมาเอง ออกมาจากปากของหญิงเหล็กโดยแท้ ...

    





       ทางไปบ้านพี่เดือน เริ่มจากหน้าโรงเรียนโนนม่วง จนสุดจะเจอวัดม่วงศรี และศูนย์อนามัยโนนม่วง เลี้ยวซ้ายตามกำแพงวัด จะเจอถนนเส้นเล็กทางซ้ายมือ ขี่เข้าไป ก่อนถึงพิมานธานีทางซ้ายจะมีทางเข้าดินลูกรังเล็กๆ เข้าไปประมาณ5เมตรก็เจอเลย

       พอไปถึงก็ได้ถามพี่เดือนเรื่องต่างๆ พี่เดือนก็ตอบมาเยอะ แต่จดไม่ทันจำไม่ได้ จะสรุปคร่าวๆ ให้อ่านแล้วกันนะครับ ตอนนี้ก็มีเงินอยู่ 5,000กว่าบาท ที่ใหม่ที่จะย้ายไปอยู่ต้องจ่ายเป็นหมื่นต่อปี(ค่าแรกเข้า กับค่าใช้จ่ายอย่างอื่นจำไม่ได้)   ค่าอาหารตกวันละประมาณ 400บาท (ลืมถามค่าน้ำ-ค่าไฟ)


           ถ้าชาวขอนแก่นท่านไหนอยากพาสุนัขแสนรักไปใช้บริการ หรือ ช่วยเหลือค่าอาหารสุนัข ติดต่อกับพี่เดือนได้โดยตรงนะค่ะ ที่หมายเลข 084-3922198 บริการรับส่งด้วยครับ
โทรไปพี่เดือนอาจจะไม่ได้รับในทันที อาจต้องโทรหลายหนหน่อย เพราะบางครั้งพี่เดือนกำลังอาบน้ำให้สุนัขอยู่  แล้วเดี๋ยวจะเข้ามารายงานความคืบหน้าเรื่องที่อยู่ของพี่เดือน ที่ต้องย้ายออกจากที่ปัจจุบันนะครับ




นางสาวมณีรัตน์ พงษ์สุทธิเจริญ (พี่เดือน)


เลขที่บัญชี 7932233878


ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยคอมเพล็ค มข.


โทรศัพท์ 084-3922198





ปล. ช่วงนี้ไม่ค่อยมีคนเอาน้องหมาไปใช้บริการ ทำให้มีรายรับน้อย อยากให้ทุกคนลงขันไปช่วยพี่เดือนด้วยครับ



        สิ่งมีชีวิตในโลกล้วนแต่ต้องผจญภัยกับโลกใบกลมๆทั้งนั้น ไม่ว่ายากดีมีจนแค่ไหน ฉันคิดว่าสุนัขมีสมอง และมีจิตใจรับรู้ได้ถึงความอาทรเช่นพี่เดือนมีให้กับสุนัขทั้งในบ้านและนอกบ้าน มันน่าแปลกที่สุนัขเหล่านี้แม้จะเจอทุกข์เพียงใด ก็ไม่เคยเรียกร้องขอความตายให้พ้นๆจากความเดรัจฉาน มีแต่ทนรับชะตากรรมแม้กับสิ่งที่ตนไม่ได้ก่อไว้ ฉันได้ซึ้งใจว่าอย่างน้อยสุนัขจรจัดที่ไม่มีใครเหลียวแล เสี้ยวหนึ่งของชีวิตพวกมัน ยังได้รับความที่รักที่บริสุทธิ์บาง “พี่เดือน นางสาวมณีรัตน์ พงษ์สุทธิเจริญ” แม่พระของสุนัขโดยแท้ . . . .




( นู๋ฮันนี่ลูกค้าประจำพี่เดือน )

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น